ข่าวการเงินประจำสัปดาห์ พร้อมแนวโน้มเศรษฐกิจไทย



สรุปข่าวการเงินประจำสัปดาห์ พร้อมแนวโน้มเศรษฐกิจไทย
ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข่าวสารด้านการเงินและการลงทุนมีผลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของประชาชน นักลงทุน และผู้ประกอบการ การติดตามข่าวการเงินจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถชี้นำแนวโน้มตลาด บ่งชี้ความเสี่ยง และเปิดโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสม ในบทความนี้ เราจะสรุปข่าวการเงินประจำสัปดาห์ พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทย เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยประจำสัปดาห์ (13–17 พฤษภาคม 2568)
1. GDP ไตรมาสแรกปี 2568 เติบโตเกินคาด
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงาน GDP ไทยไตรมาส 1 ขยายตัว 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.3% การเติบโตครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น แม้ยังมีแรงกดดันจากต้นทุนค่าครองชีพบางส่วน
2. ธนาคารแห่งประเทศไทยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50%
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด มีมติ “เอกฉันท์” คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% โดยระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง แม้ตัวเลข GDP และการบริโภคจะเป็นบวก แต่ยังมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลต่อต้นทุนพลังงาน
3. เงินเฟ้อชะลอตัวต่ำกว่าเป้าหมาย
ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนเมษายนอยู่ที่ 1.8% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.1% เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่ทรงตัวและผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าอาหารหลายชนิดลดลง
ข่าวสำคัญในแวดวงการเงินและการลงทุน
1. ตลาดหุ้นไทย (SET Index) แกว่งตัวแคบ
ดัชนี SET Index ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1,410.32 จุด ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน โดยมีแรงกดดันจากผลประกอบการกลุ่มพลังงานที่ออกมาต่ำกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารและกลุ่มสื่อสารมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนในประเทศ ซึ่งช่วยประคองดัชนีไม่ให้ปรับลดแรง โดยเฉพาะหุ้น BBL, SCB และ ADVANC ที่ได้รับแรงเก็งกำไรจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง
2. เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์ จากแรงซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้นโดยนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าค่าเงินบาทจะยังคงผันผวนตามทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
3. ความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
สัปดาห์นี้ Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 67,000 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่า ETF คริปโตในสหรัฐได้รับการอนุมัติจาก SEC เพิ่มเติม ความเคลื่อนไหวนี้กระตุ้นให้ตลาดโดยรวมฟื้นตัว โดย Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) ก็ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกัน
นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่านี่อาจเป็นช่วงปรับฐานระยะสั้นก่อน BTC ขยับขึ้นต่อ หากยังสามารถยืนเหนือระดับ 66,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง
วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2568
1. ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกยังเป็นประเด็นหลัก
แม้เศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณฟื้นตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก ได้แก่:
- ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ (Fed)
- ปัญหาเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัว
- ราคาน้ำมันโลกที่อาจผันผวนหากความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรง
2. กลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง
- ภาคการท่องเที่ยว: คาดว่าจะเป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว
- กลุ่มธนาคาร: ผลประกอบการยังคงแข็งแกร่ง จากการปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจที่ฟื้นตัว
- อสังหาริมทรัพย์: แม้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นในกลุ่มคอนโดระดับกลางถึงล่าง
3. คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
- ควรกระจายพอร์ตการลงทุนให้หลากหลายทั้งในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และกองทุนรวม
- ควรมีการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือทองคำ เพื่อป้องกันความผันผวนระยะสั้น
- หากลงทุนในคริปโต ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านและใช้เงินเย็นในการลงทุน
สรุปภาพรวม
จากข้อมูลที่ปรากฏในสัปดาห์นี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคบริการและการบริโภคในประเทศที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก อย่างไรก็ตาม การลงทุนในช่วงนี้ยังต้องระมัดระวังและอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนในระดับโลกที่อาจกระทบต่อตลาดการเงินและการลงทุนได้ตลอดเวลา
การติดตามข่าวการเงินอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ ทั้งในแง่ของการอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดและการวางแผนกลยุทธ์ทางการเงินอย่างมีเหตุผล
แหล่งข้อมูล:
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th)
